camilliansampran.org


 

ในปัจจุบัน ผู้สูงอายุ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณว่าในปี 2563 จะมีประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี อยู่ราว 1 ใน 6 ของประชาการทั้งหมด เนื่องมาจากคนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น ดังนั้น การส่งเสริม ให้ผู้สูงอายุ สามารถดูแลตนเองได้ จะช่วยทำให้การมีอายุยืนยาว มีความสุขทั้งทางกาย ใจ และอยู่ในสังคมได้อย่างเหมาะสม กล่าวคือ เป็นทั้งผู้ให้ และผู้รับประโยชน์ในสังคม และอย่างมีศักดิ์ศรี มากกว่า การมีชีวิตยืนยาว แต่ต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่ อยู่กับ ความเจ็บป่วย ทำให้เพิ่มเวลา ของความทุกข์ และภาวะจำทน 

การเปลี่ยนแปลง 

ธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อมีอายุมากขึ้น ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงไป ในวัยเด็ก จะมีความเจริญ มากกว่า ความเสื่อม กล่าวคือ ร่างกายจะขยายขนาด ทั้งความสูงและน้ำหนักตัว ส่วนผู้สูงอายุ ความเสื่อมของร่างกาย จะมีมากกว่า ความเจริญ ทำให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายทั่วไป อ่อนแอ และเกิดโรคง่าย แต่อย่างไรก็ตาม ความเสื่อม หรือการเปลี่ยนแปลง จะแตกต่างกัน ในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ กรรมพันธุ์ วิถีการดำรงชีวิต อาหารการกิน สภาพเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น 

ปัญหาที่พบได้บ่อยๆ ในผู้สูงอายุและการแก้ไข
กระดูกหักง่าย เนื่องจากความเสื่อมของกระดูก กระดูกบางที่พบบ่อยคือ กระดูกสะโพก ต้นขา ข้อมือ และกระดูกสันหลัง 
การแก้ไข โดยดื่มนม กินปลาเล็กปลาน้อยอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรดื่มสุราเพราะทำให้สูญเสียแคลเซียมในกระดูกมาก ทำให้กระดูกผุ เปราะ เสื่อมเร็ว

สายตาไม่ดี เกิดจากเลนส์ตาแข็งตัว ยืดหยุ่นไม่ดี การปรับภาพจะน้อยลง จึงเห็นภาพไม่ชัด 
การแก้ไข โดยสวมแว่น 

หูตึง เกิดจากระบบประสาทเสื่อมถอย ประสาทการได้ยินของหูเสื่อม
การแก้ไข ควรพบแพทย์ 

ฟันไม่ดี ฟันลดลง ปากแห้ง การได้กลิ่นและรับรสเสีย ทำให้กินอาหารไม่ได้ กินช้าลง กินได้น้อย 

การแก้ไข ควรปรึกษาทันตแพทย์ และต้องเลือกอาหารที่เคี้ยวง่าย 

เป็นลมบ่อย เกิดจากการปรับตัวของความดันเลือดไม่ดีขณะเปลี่ยนท่าทาง ความดันเลือดจะลดลงอย่างรวดเร็ว 
การแก้ไข นอนหมอนสูงเล็กน้อย ค่อยๆ ลุก เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว และออกกำลังกายสม่ำเสมอ 

เรอบ่อย จากท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย เนื่องจากการบีบตัวของหลอดอาหารลดลง น้ำย่อยออกน้อย เกิดลมในกระเพาะ 

ท้องผูก 
เกิดจากความเสื่อมของกล้ามเนื้อลำไส้ การเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ทำให้กากอาหารเคลื่อนตัวมาสู่ลำไส้ส่วนล่างช้า การแก้ไข รับประทานอาหารย่อยง่าย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 

อาจเป็นเบาหวาน เพราะเนื้อเยื่อของร่างกาย ไม่สามารถตอบสนอง ต่อฮอร์โมนอินซูลิน ที่ออกมาจาก ตับอ่อนได้เพียงพอ ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง 
การแก้ไข ควบคุมอาหารหวานจัด 

หูรูดเสื่อม ท่อปัสสาวะเสื่อมในผู้ชายจากต่อมลูกหมากโต ผู้หญิงจะมีมดลูกหย่อนดึงกระเพาะปัสสาวะลงมา ทำให้ปัสสาวะบ่อย
การแก้ไข กรณีเป็นมากอาจต้องพบแพทย์ 

หลงลืมบ่อย เนื่องจากเซลล์สมองเสื่อม เซลล์สมองลดลงมีการตายของเซลล์ และไม่เกิดใหม่ 
การแก้ไข ควรรวมกลุ่มวัยเดียวกันมีกิจกรรมร่วมกัน ไม่แยกตัวทำงานที่เป็นประโยชน์สังคม จะช่วยให้ความจำดีขึ้น 

หัวใจและหลอดเลือด เกิดภาวะหลอดเลือดเสื่อม หลอดเลือดแข็งตัว โดยเฉพาะหลอดเลือดเล็กๆ ที่เลี้ยงไต สมอง หัวใจ หัวใจต้องทำงานหนักจึงเหนื่อยง่าย 
การแก้ไข กินอาหารที่เหมาะสมให้ครบ 5 หมู่ ควรระวังอย่าให้อ้วนเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารไขมันจากสัตว์และกะทิ อาหารรสหวานจัด ควรกินข้าวกล้อง ปลา จะย่อยง่าย ผัก ผลไม้ ถั่ว 

ปัญหาอารมณ์ เกลียด เครียด กังวล โกรธ มีผลต่อร่างกาย ขณะมีอารมณ์ดังกล่าว ต่อมหมวกไตจะหลั่งฮอร์โมนออกมาทำให้มีอาการใจสั่น น้ำตาลสูงขึ้นและทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารลำไส้ 
การแก้ไข ผู้ใกล้ชิด ลูกหลาน ควรให้ความรักความเข้าใจ เอาใจใส่ดูแลให้ความเคารพนับถือ จะช่วยให้ปัญหาทางอารมณ์ในผู้สูงอายุลดลง 


การปฏิบัติตัวเพื่อเตรียมตัวเป็นผู้สูงอาย

1. ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และย่อยง่ายให้เพียงพอ ครบ 5 หมู่ ละเว้นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และอบายมุข เช่น เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด เที่ยวกลางคืน เป็นต้น ออกกำลังกายให้พอเหมาะ ไม่ให้เหนื่อยเกินไป ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 6-8 ชั่วโมง 

2. ด้านจิตใจและสังคม รักษาจิตใจให้สบาย มีหลักยึดมั่นในศาสนา พบปะสังสรรค์กับผู้อื่นตามความเหมาะสม และทำงานเพื่อประโยชน์ของตนเองและสังคมที่ไม่หนักเกินไป เช่น การไปฟังธรรม การเข้าสมาคมบำเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น 

มีความสุขในครอบครัว ความรักในผู้สูงอายุมิได้หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างเดียว แต่หมายถึงการมีคู่ไว้ช่วยคิด ปรึกษาหารือ ปรับทุกข์ซึ่งกันและกัน แต่ในบางคู่อาจมีเพศสัมพันธ์ได้ตามความเหมาะสม ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ และถ้าอยู่ในขอบเขตเป็นที่ยอมรับของสังคมจะเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ชะลอความแก่ได้เหมือนกัน 

ผู้สูงอายุจะมีชีวิตยืนยาวนั้น มักพึงพอใจที่จะอยู่กับลูกหลาน ได้เห็นความเจริญก้าวหน้าของลูกหลานด้วย 

การบริหารร่างกาย

การบริหารร่างกายในผู้สูงอายุมีความสำคัญ ทำให้ปอด หัวใจ กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงอยู่เสมอ การบริหารร่างกายต้องใช้เวลานานพอควร ไม่ใช่ทำเพียงครั้งสองครั้งแล้วจะได้ผลเลย การเริ่มต้นออกกำลังกายต้องทำทีละเล็กละน้อย ให้ร่างกายปรับตัวไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การมีจิตใจเป็นสมาธิ ไม่ฟุ้งซ่านขณะบริหาร ร่างกายจะทำให้ได้ผลมากขึ้น การบริหารร่างกายโดยทั่วไปที่สามารถทำได้คือ 

บริหารโดยการหายใจ
หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ จนสุด ทำให้ หายใจออกทางปากช้าๆ ทำหน้าท้อง 
ท้องโป่งออก ให้แฟบลง ปล่อยตัวตามสบาย 

ท่าบริหารผ่อนคลายสายตา

ศีรษะตรง มองเพ่งไปข้างหน้า กลอกตาไป ซ้าย ขวา บน ล่าง 

ท่าบริหารคอ 
ก้มศีรษะช้าๆ เงยหน้าขึ้นให้ศีรษะตรง เอียงคอไปข้างใดข้างหนึ่ง หมุนคอช้าๆ 

ท่าบริหารไหล่และแขน 
1. นั่งห้อยแขนลงข้างลำตัว แกว่งแขวนทั้งสองข้างไปข้างหน้าหมุนเป็นวงกลม 3-5 รอบ หมุนย้อนทางเดิม 3-5 รอบ 
2. กางแขนออกให้เสมอไหล่ หมุนแขนเป็นวงกลมจากวงเล็กค่อยๆ ใหญ่ขึ้น หมุน 3-5 รอบ หมุนย้อนทางเดิม 3-5 รอบ

การบริหารร่างกายโดยใช้การเดิน เดินอย่างไรจึงจะเรียกว่า เดินเพื่อสุขภาพ 


1. เดินให้เร็ว ก้าวขายาวๆ แกว่งแขนให้แรง เพื่อให้ร่างกายได้ใช้พลังงานมากๆ
2. เดินติดต่อกันไปเรื่อยๆ อย่างน้อย 30 นาทีในแต่ละครั้ง 
3. เดินให้ได้สัปดาห์ละอย่างน้อย 3-5 ครั้ง
ถ้าเดินแล้วยังไม่เหนื่อยพอต้องเพิ่มความเร็วหรือแกว่งแขนให้มากขึ้น 

การบริการร่างกายในผู้สูงอายุยังมีอีกมาก อาจใช้วิธี ชกลม ถีบจักรยานอากาศ วิ่งเหยาะๆ ฯลฯ ตามความชอบ ความเหมาะสม ผู้ที่มีความเจ็บป่วยอยู่ การออกกำลังกายควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ 


เอกสารอ้างอิง 

ฆนัท ครุธกูลและสุทธิชัย จิตะพันธ์กุล. (2544).อาหารสำหรับผู้สูงอายุ.พฤฒาวิทยา และเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ 2. (4) หน้า 44-50.,

ศิริวรรณ ศิริบุญ และปัทมา อมรสิริสมบูรณ์. (2544).ผู้สูงอายุอยู่ทนหรือทนอยู่. พฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ 2. (4) หน้า 22-23., 

หน่วยแนะแนวและปรึกษาปัญหาสุขภาพ ภาควิชาพยาบาลศาสตร์. (2546). ปัญหาที่ พบในผู้สูงอายุ. (แผ่นพับ).


งานการพยาบาลป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพ 
ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี 
ผู้เรียบเรียง จริยา วิรุฬราช